Laravel 5.0 ใช้ {!! HTML::style !!} หรือ {!! HTML::script !!} ไม่ได้

*** ผมได้ไปอ่านเจอ อีกวิธีนึงใน https://laravelcollective.com/docs/5.0/html เค้าแนะนำให้ใช้อีกวิธีนึงครับ แต่ผมลองแล้วไม่ work แบบนี้ work หากใครลองแบบของผมไม่ work ก็ลองเปลี่ยนไปตามลิ้งที่ผมแนบดูได้นะครับ  ^^ ***

หากใครเคยใช้ Laravel version ต่ำกว่า 5.0 ลงไปก็จะสามารถใช้ {{ html }} ได้แบบปกติสุขดีครับ

แต่เมื่อปรับขึ้นมาเป็น version สูงกว่า 5.0 ปัญญาเกิดเลยเพราะ เจ้า Laravel ดันเลือกที่จะนำ HTML Class ออกจาก project ซะงั้น

ทำให้เราต้องมาหาวิธี เพิ่ม HTML Class เอาเองอีก (อันนี้ผมก็งงๆ)

เอาเป็นว่าเรามีเริ่มกันเลยดีกว่าครับ อย่างแรกก็คือต้อง เพิ่ม require ให้กับ composer.json ก่อนครับ

เปิดหน้า command line ขึ้นมาครับ จะเป็น cmd จาก windows หรือ terminal ของ linux ก็แล้วแต่เลยครับ 

เข้าไปใน directory project ก่อนเลยครับ

composer require illuminate/html":  "5.*

จากนั้ันก็ ทำการ เพิ่ม อีกสองบรรทัดเข้าไปใน ไฟล์นี้ config/app.php ใน laravel กันครับ 

'Illuminate\Html\HtmlServiceProvider'

และอีกทีนึงครับ ไฟล์เดียวกันเลย

'Form'=> 'Illuminate\Html\FormFacade',

'HTML'=> 'Illuminate\Html\HtmlFacade'

แล้วก็ save เลยครับ

เท่านี้ก็น่าจะสามารถใช้ได้แล้วนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ไม่ยุ่งยาก (สักเท่าไหร่ -*-) หวังว่าจะพอช่วยหลายๆคนได้อยู่บ้างนะครับ

continue reading Laravel 5.0 ใช้ {!! HTML::style !!} หรือ {!! HTML::script !!} ไม่ได้

วิธี config port Phpmyadmin(Mysql) แยกกันระหว่าง Wamp และ Appserv

หากเราติดตั้งอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน ไม่ว่าจะเป็น Appserv หรือ Wamp ก็ตามนะครับสิ่งที่ควร ให้ความสนใจก็คือ port เนื่องจาก port 1 port จะสามารถใช้งานได้ใน 1 service ต่อ 1 ช่วงเวลาเท่านั้ัน

จะไม่สามารถใช้ ซ้ำกันได้เราจึงต้องหนีไปใช้ ตัวอื่นๆ แทน

และบ่อยๆที่ เราจะตั้ง port สำหรับ web server ไว้เป็น แนวๆนี้ครับ 80(อันนี้โดย default) 8080 เป็นต้น 

port ที่กล่าวมานี้เป็นของ Apache ครับ แต่ไม่ใช่ port ของ phpmyadmin (Mysql) ดังนั้ันหากเรา ไม่ได้เปลี่ยน Port เพื่อเข้าใช้ Phpmyadmin ของ webserver ตัวใดตัวหนึ่งละก็ เจ้า Apache จะพยายามทำการเข้าถึง Phpmyadmin ตัวหนึ่งครับ 

เท่าที่ผมเจอคือ ผมจะใช้ phpmyadmin ของ wamp ครับ แต่มันพยายามจะเข้า phpmyadmin ของ appserv โดยใช้ ไฟล์ config password ของ Wamp ครับ

ดังนั้ันเราต้องไปตั้งค่า port ให้กับ phpmyadmin ของ webserver สักตัว สมมุติว่า ชื่อ XXX-webserver ครับ แล้วค่อยไปแก้ port ที่ apache ของ XXX-webserver ตัวที่แก้ port phpmyadmin นั้ันๆด้วย

วิธีก็ตามในนี้เลยครับ

http://www.websysdynamics.com/Web-Tech-Blog/how-to-run-xampp-and-wamp-on-same-machine-in-windows-environment.html

continue reading วิธี config port Phpmyadmin(Mysql) แยกกันระหว่าง Wamp และ Appserv

PL/SQL ฉบับ Novice ภาค3 เงื่อนไข

คราวนี้เรามาลอง กับการเขียน เงื่อนไขอย่าง IF ELSEIF และก็ ELSE กันดูบ้างนะครับ

หลักการของการทำ Condition ก็คือ 

IF ( เงื่อนไข ) THEN

     สิ่งที่จะกระทำเมื่อตรงตามเงื่อนไขนี้

******************** ส่วนนี้อาจจะไม่มีก็ได้ครับ ********************

ELSEIF ( เงื่อนไข ) THEN 

     สิ่งที่จะกระทำเมื่อตรงตามเงื่อนไขนี้

ELSEIF ( เงื่อนไข ) THEN
     สิ่งที่จะกระทำเมื่อตรงตามเงื่อนไขนี้
************************************************************

ELSE

     สิ่งที่จะกระทำเมื่อไม่ตรงตามเงื่อนไขใดๆเลย

ผมได้ลองเขียน pl/sql สักชุดดูครับ ได้ผลดังนี้

บทต่อไปเราจะมาว่ากันเรื่อง การวนซ้ำ หรือ Loop นั่นเอง

continue reading PL/SQL ฉบับ Novice ภาค3 เงื่อนไข

PL/SQL ฉบับ Novice ภาค2 เริ่มเขียน

มาสู่เส้นทาง Novice ด้าน PL/SQL กันต่อนะครับ

คราวนี้ผมจะพาลง Coding กันเลยแล้วกัน (ตัดบทเกินไปมั้ย  = =)

*** สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจเรื่อง Datatype ให้อ่านที่นี่ ***
 http://docs.oracle.com/cd/B28359_01/appdev.111/b28370/datatypes.htm#i46029 

ผมลงมือเขียนเขียนแล้วได้ดังรูป แล้วผมจะอธิบายที่ละรูปๆ นะครับ

รูป 1

1. จากรูปที่ 1 แสดงผลเป็นข้อความธรรมดาครับ (ข้อสังเกตคือหากไม่มีการใช้งานตัวแปรเลย เราไม่จำเป้นต้องมี declare)

รูป 2

2. จากรูปที่ 2 คราวนี้จะสังเกตได้ว่ามี Declare เพิ่มขึ้นและมีการประกาศตัวแปรชื่อว่า say ที่มีค่าว่างๆ ชนิด varchar2 ขนาด 50 ตัวอักษรรอไว้
จากนั้นจึงมากำหนด ประโยคข้อความ ลงในตัวแปรชื่อว่า say ว่า Hello Novice
จากนั้ันก็ให้แสดงผลข้อความโดย อ้างอิงจาก ชื่อตัวแปรแทนครับ ซึ่งผลก็จะออกมาไม่ต่างกัน

รูปที่ 3

3. รูปที่ 3 เป็นการระบุค่าลงไปในตัวแปร ตั้งแต่ขั้นตอนประกาศตัวแปรเลยครับ (ในขั้นตอน declare)

รูปที่ 4

4. รูปที่ 4 ผมพยายามจะอธิบาย สองส่วนครับ
ส่วนแรก คือการประกาศตัวแปร say3 ที่มีการกำหนดค่าไว้แล้ว และ say4 ที่มีการระบุค่าในภายหลัง (หลังจากเริ่มกระบวนการ) ซึ่งก็ได้ผลเหมือนกันครับ
ส่วนที่สอง ก็คือการแสดงผลตัวแปรหลายๆตัว พร้อมกัน โดยใช้ " || " ขั้นกลางไว้ครับ

รูปที่ 5

5. จากรูปที่ 5 คราวนี้ผมอยากลองเปลี่ยนไปใช้ ตัวแปรชนิดอื่นดูบ้าง ผมเลยลองกับ number และให้มันการดำเนินการก่อนแสดงผลไปด้วยเลย แล้วแสดงผลครับ

เสริมนิดนึงครับ ในเรื่อง operation เช่นการ บวกลบคูณหาร และยกกำลัง จะใช้คำสั่งดังนี้ครับ

• การบวก (+)  ให้ใช้ + เลยครับ เช่น 5 + 5 ก็จะได้ 10
• การลบ ( - ) ให้ใช้ - ครับ เช่น 10 - 5 ก็จะได้ 5
• การคูณ ( x ) ให้ใช้ * ครับ เช่น 5*5 ก็จะได้ 25
• การหาร ( / ) ให้ใช้ / ครับ เช่น 10/2 ก็จะได้ 5
• การยกกำลัง ให้ใช้ ** ครับ เช่น 5**2 ก็จะได้ 25

จะเห็นว่า PL/SQL ก็มีความยืดหยุ่นกว่าตัวภาษา SQL เพียวๆอยู่หลายขุมเลยนะครับ
ภาคต่อไปเราจะมาลองเล่นกับ condition พวก if else ดูบ้างนะครับ

continue reading PL/SQL ฉบับ Novice ภาค2 เริ่มเขียน

PL/SQL ฉบับ Novice ภาคอธิบาย

ย้ายไปไว้ใน https://tchaloemphon.com/pl-sql-for-novice-ep1/

continue reading PL/SQL ฉบับ Novice ภาคอธิบาย

คุณสมบัติความเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดี

หัวข้อนี้เป็นเรื่องบ่นๆของผมครับ ได้แนวคิดมาจากชีวิตวัยทำงานด้าน Programming และเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างจะ นานาจิตตังครับ แล้วแต่คนจะมอง แต่สำหรับหัวข้อนี้ผมจะมาอธิบายมุมมองของการเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดีของผมดูบ้างครับ

การเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดีสำหรับผม จะเกี่ยวข้องกับการทำงานด้วยตัวคนเดียวและกับผู้อื่นครับ

1. โปรแกรมเมอร์ต้องเขียน Code ได้อ่านเข้าใจง่ายครับ การตั้งชื่อต้องสื่อได้ว่าอะไรคืออะไร เป็นตัวแปร หรือเป็น Method แต่ละตัวทำอะไรและคืนค่าอะไร อันนี้ก็มีหลากหลายเทคนิคหลายสำนักเลยครับลองไปศึกษากันดู อีกทั้งมีการจัดความลึกของ Code เป็นลำดับชั้นให้ชัดเจนครับ

เพราะผมเคยเห็น โปรแกรมเมอร์บางคน เขียนติดๆๆๆ กันยาวๆๆ ไม่ยอมขึ้นบรรทัดใหม่ก็มี

เขียนเปิดปิด tag ไว้ไม่ตรงกันก็มี ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจนะว่าทำไมเขาถึงเขียนกันแบบนั้น

2. Code ที่เขียนลงไปต้องทำงานได้ถูกต้องครับ ในที่นี้หมายถึงสองภาคครับคือ

• ภาค output ที่ต้องให้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการครับ 
• ภาค Input ที่ต้องครอบคุมการกรอก input เข้าไปด้วยเช่นกำหนดเป็นแค่ตัวเลขหรือแค่ตัวอักษร ตัวอย่างเช่นเลขบัตรประชาชน เราจะอนุญาติใส่ตัวอักษรหรืออักขระพิเศษลงไปไม่ได้

3. โปรแกรมเมอร์ที่ดีต้องเขียน Code ที่สามารถกลับมาแก้ไขได้ง่ายในภายภาคหน้าครับ 

• วิธีการของข้อนี้สืบเนื่องจากข้อแรกเลยครับ  
• เหตุผลก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าในอนาคตนานแค่ไหนที่เราต้องกลับมาแก้ไข Code เดิมๆที่เราเคยเขียน ลำพังเรากลับมาแก้ Code ตัวเองยังยากแล้ว แล้วจะให้คนอื่นๆ มาแก้ไข Code ที่เราก่อไว้อีกคงเป็นเรื่องปวดหัวเอามากๆ (เอ๊ะ!!เหมือนบ่นชีวิตตัวเอง -*-) 
• และการขาดคุณสมบัติการเขียน code ข้อนี้ทำให้ โปรแกรมเมอร์คนอื่นๆที่เข้ามารับผิดชอบงานต่อถึงกับส่ายหน้า และสุดท้ายก็ต้องการที่จะสร้าง product ตัวใหม่ขึ้นมาแทนมากกว่าจะสานต่องาน Code เดิมครับ จะเห็นได้ว่าหากเราเขียนได้เข้าใจง่ายต่อตัวเองและผู้อื่นจะทำให้ Code ของเรามีคุณค่ายิ่งขึ้นนั้ันเองครับ (เห็น Code แล้วอ๋อ!! สามารถ Dev ต่อได้) ^^ 

เรื่องนอกเหนือจากนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องทาง เทคนิคแล้วครับไม่ว่าจะเป็น การ Design , Speed ลูกเล่นต่างๆ แต่คุณสมบัติ 3 ข้อที่ผมกล่าวๆมา ผมมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากในการทำงานด้าน Programming 

continue reading คุณสมบัติความเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดี

วิธีสร้าง link html ให้ไปเปิด App ยอดนิยม

กรณีของผมคือ ติดปัญหาว่าจะ สร้างลิ้งที่ หากเปิดกับอุปกรณ์ smart phone แล้วจะไปเปิด app ตามที่เรากำหนดครับ เช่นของผมเนี้ยต้องการให้เปิด app Line chat พร้อมกับส่งข้อความประกอบไปด้วย เหลือเพียงแค่เลือกผู้ที่จะรับข้อความ เท่านั้ัน หรือจะเปิด app Facebook จาก ลิ้งก็ได้นะครับ

1. line

วิธีเขียนตามนี้ครับ

http://line.me/R/msg/<CONTENT TYPE>/?<CONTENT KEY>

ตัวอย่างนะครับ

<a onclick="window.open('http://line.me/R/msg/text/?ข้อความข้อความข้อความข้อความ','sharer','toolbar=0,status=0,width=548,height=325');" href="javascript: void(0)" rel="external" target="_blank"> <span>LINE</span> </a>

ลิ้งสอนของ line ก็มีนะครับ

http://media.line.me/howto/en/

2. Facebook

<a href="https://th-th.facebook.com/ชื่อfacebookนะครับ">FAcebooK</a>

continue reading วิธีสร้าง link html ให้ไปเปิด App ยอดนิยม